Reflection:

สิ่งที่ได้เรียนรู้และจะนำไปใช้_Professional Business Etiquette

มารยาทการทักทาย การสื่อสาร สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับงานแต่ละงานได้อย่างถูกต้อง
การพูดคุย ประสานงาน การแต่งกาย และบุคลิกต่างๆ เราต้องปรับไปตามผู้ที่เราพูดคุยด้วย ว่าคนที่เราพูดคุยด้วยคือใคร
กิจกรรมสมมุติที่มีประโยชน์สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานจริงได้ เรียนรู้ภาษากายด้านบวกด้านลบ
แนวทางในการแต่งกาย สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานและในชีวิตประจำวันได้ รวมถึงมารยาทในการรับประทานอาหาร
เทคนิคเพิ่มเติมเป็นประโยชน์มากกับมารยาทการสื่อสาร การแต่งกาย การทักทาย มอบนามบัตร การประชุม การรับประทานอาหาร
การพูดคุย ประโยคคำพูดต่างๆ การแต่งกาย ให้ถูกกาละเทสะ การวางตัวทาท่างต่างๆที่เหมาะสม
เรื่องมารยาทต่างๆ สามารถนำไปใช้ในการปฎิบัติงานและชีวิตประจำวันได้
ชอบที่ได้ฝึก 1. การทักทายและมอบนามบัตร (การค่อยๆพัฒนาบทบาทไปเรื่อยๆ พร้อมเห็นเพื่อนที่ทำ เป็น good feedback) 2. การไหว้ 3. Role play ( team learning ดีมาก)
ได้เรียนรู้และเข้าใจมากขึ้น ในการใช้มารยาทการทำงานในด้านธุรกิจ การสร้างบุคลิกหรือการสื่อสารกับคนรอบตัวว่าควรปฏิบัติตัวและวางบุคลิกอย่างไร
ชอบเรื่องการแต่งกาย มารยาทการติดตามงาน การทารยาทบนโต๊ะรับประทานอาหาร และการจำบองบทบาท
ได้เทคนิค และแนวทางการปรับบุคลิกของตัวเองให้เหมาะสมกับการนำไปใช้ในการพูดคุยธุรกิจในอนาคต ทั้งภาษากาย การพูด และการแต่งกาย
Small talk ก่อนการสนทนาหลัก การใช้ภาษากาย น้ำเสียงให้เหมาะสมกับเหตุการณ์
การปฏิบัติตัวในการทักทาย และการร่วมประชุม
ได้นำเรื่องของมารยาทไปใช้และช่วยในการทำงานได้จริง
ชอบที่มีการแสดงบทบาทที่หลากหลายสถานการณ์
เรียนรู้มารยาทในการสร้างสัมพันธ์ที่ดี ทั้งการใช้คำพูด กางแสดงออกทางกาย การแต่งกาย
การจำลองสถานการณ์เพื่อให้เห็นภาพและแนวทางปฏิบัติจริง
รองเท้าสุภาพคือหลังปิด หน้าจะปิดรึเปิดแล้วแต่กรณี
ชอบกิจกรรมที่ให้แสดงบทบาทสมมติ เพราะได้ดึงเอาสิ่งที่เรียนรู้ทั้งหมด มาใช้มาสถานการณ์สมมติเลยค่ะ
มารยาทในที่ประชุม การใช้ภาษา คำพูด น้ำเสียง
มารยาทบนโต๊ะอาหาร การให้นามบัตร
การใช้คำในการติดต่องาน การแต่งกาย การวางตัวในสถานที่ต่างๆ
ชอบที่ได้แลกเปลี่ยนกับเพื่อน และ workshop การ role play
ข้อมูลพัฒนาตัวเอง
การสร้าวความสัมพันธ์ มารยาทการเข้าสังคม
การสร้างบุคลิกที่มีเสน่ห์ และ แบบไหนที่คนชอบ ไม่ชอบ ความประทับใจแรกพบ
การสร้าง personal branding เพื่อให้ได้รับคุณค่า และโอกาสที่ต้องการ การปรับปรุงบุคลิกภาพให้สอดคล้องกับงานที่ได้รับมอบหมาย
1.อย่าตัดสินคนจากภายนอกว่าเค้าเป็นคนแบบไหน (พยายามเข้าถึงเข้าใจในบริบทที่เค้ากำลังจะแสดงออกมา) 2.คนอบอุ่นเป็นคนที่อยากเข้าหา ปรึกษามากกว่าคนที่เก่ง
สร้างภาพลักษณ์ใหม่ของตนเองเพื่อเป้าหมายตนเอง
ได้รู้ว่า บางคนรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ มองแค่แว๊บเดียวไม่สามารถตัดสินคนอื่นได้ ว่าเค้าเป็นคนแบบไหน
-การปรับบุคลิก Personal branding เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือในการทำงาน -การแสดงลักษณะท่าทาง เทคนิคการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน/บุคคลที่ต้องประสานงานด้วย
Brand Image is a key to drive to the success.
ได้เรียนรู้บุคลิก และพฤติกรรมช่วยสร้างความสัมพันธ์
- การที่ทำให้ตนเองมีความน่าเชื่อถือและอบอุ่น - ในสถานการณ์ที่แย่ ๆ ควรมองโลกในความเป็นจริงอย่างมีความหวัง
การมีจิตใจดีและเก่ง จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
การทำงานภาพลักษณ์และความหน้าเชื่อถือเป็นด่านแรกที่จะทำให้ลูกค้าสนใจ
บุคลิกภาพนอก และภาษากาย เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญพอๆ กับการพูดเจรจา
การวางตัว การแสดงลักษณะท่าทาง ให้เหมาะสมกับสถารการณ์ต่างๆ เพื่อให้มีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นในการทำงานหรือในชีวิตประจำวัน
ได้รับรู้บุคลิกภาพของตนเองที่ผู้อื่นได้เห็น ซึ่งสามารถนำไปสู่กับปรับบุคลิกภาพเพื่อเพิ่มคุณค่า เพิ่มโอกาสให้เราสามารถทำงานได้ตามเป้าหมายที่วางแผนไว้
ปรับความคิด การวางตัว บุคลิกให้เหมาะกับการสร้างความสัมพันธ์
บุคคลิกภาพ : เราปรับ สร้างใหม่ได้
การสมดุลระหว่าง worm และ competent ให้เหมาะสม
การใช้สร้างpersonal brand ของตัวเองและ การสร้างบุคคลิกให้น่าเข้าหามากยิ่งขึ้น
การสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเอง และการคิดบวก สามารถนำมาปรับใช้ให้เราดูมีภูมิฐานมากยิ่งขึ้น
คุณค่าและโอกาสที่อยากได้ ควรสอดคล้องกับ Personal Branding ที่เราสื่อออกไป
มองหาสิ่งที่ดี จัดการสิ่งที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด
การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัว และการสร้าง Branding ให้กับตัวเราเอง
ความคิดเชิงบวกทำให้เราเห็นความเป็นจริง แต่ยังคงเห็นความหวัง
สร้างความสัมพันธ์ ด้วยบุคลิกที่น่าเชื่ิอถือ ไว้วางใจ และทัศนคติเชิงบวก
การปรับท่าทีให้สมดุล
การปรับตัว