Scan here!
ต้นทุนรวมประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
ต้นทุนรวม (Total Cost) หมายถึง มูลค่ารวมของทรัพยากรทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตสินค้า หรือให้บริการภายในระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งสะท้อนถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ธุรกิจต้องแบกรับเพื่อดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง ต้นทุนรวมถือเป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนการผลิต การกำหนดราคาขาย และการประเมินผลกำไรของกิจการ โดยทั่วไป “ต้นทุนรวม” ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก คือ ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost), ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) และ ต้นทุนรวมเฉลี่ย (Average Total Cost)
1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost)
หมายถึง ต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตหรือยอดขาย แม้ผลิตมากหรือน้อยก็ยังคงต้องจ่าย เช่น ค่าเช่าสถานที่ ค่าจ้างพนักงานประจำ เงินเดือนผู้บริหาร ค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักร ค่าภาษีโรงเรือน และค่าสาธารณูปโภคพื้นฐานบางส่วน ต้นทุนส่วนนี้มักเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจในระยะยาวและไม่สามารถลดลงได้ง่ายในช่วงเวลาสั้น ๆ
2. ต้นทุนผันแปร (Variable Cost)
คือต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับการผลิต ยิ่งผลิตมากต้นทุนส่วนนี้ก็จะเพิ่มขึ้น เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าขนส่ง ค่าจ้างแรงงานรายวัน หรือค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิต ต้นทุนผันแปรจึงสะท้อนถึงต้นทุนต่อหน่วยของสินค้าโดยตรง ซึ่งผู้บริหารสามารถควบคุมหรือปรับลดได้ในระยะสั้นตามปริมาณการผลิตที่เปลี่ยนแปลง
3. ต้นทุนรวมเฉลี่ย (Average Total Cost)
หมายถึง ต้นทุนรวมต่อหน่วยของสินค้า คำนวณจากผลรวมของต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร หารด้วยจำนวนหน่วยสินค้าที่ผลิตได้ ซึ่งช่วยให้ธุรกิจทราบว่าต้นทุนที่แท้จริงต่อสินค้าแต่ละชิ้นเป็นเท่าใด เพื่อนำไปใช้ในการตั้งราคาขายและประเมินจุดคุ้มทุน
นอกจากนี้ ในบางกรณีอาจมีการพิจารณา ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ซึ่งหมายถึงมูลค่าของผลประโยชน์ที่สูญเสียไปจากการเลือกใช้ทรัพยากรในทางใดทางหนึ่งแทนที่จะใช้ในทางเลือกอื่น เช่น เงินทุนที่นำไปซื้อเครื่องจักรอาจไม่สามารถนำไปลงทุนอย่างอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าได้
กล่าวโดยสรุป ต้นทุนรวมคือการรวมกันของต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรทั้งหมดในกระบวนการผลิต การเข้าใจองค์ประกอบของต้นทุนเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผน ลดความสูญเสีย และตัดสินใจทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปอย่างยั่งยืนและมีกำไรสูงสุด
พฤติกรรมต้นทุน (Cost Behavior) หมายถึง ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนรวมเมื่อระดับกิจกรรม (Activity Level) ของกิจการมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยปกติแล้ว การจำแนกต้นทุนตามพฤติกรรมต้นทุนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางแผน การควบคุม และการตัดสินใจทางธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการวิเคราะห์จุดคุ้มทุน (Break-Even Point Analysis)
ประเภทของพฤติกรรมต้นทุนหลัก
การจำแนกพฤติกรรมต้นทุนหลัก ๆ มีดังนี้:
1. ต้นทุนผันแปร (Variable Costs: VC)
ต้นทุนรวม: จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันและเป็นสัดส่วนโดยตรงกับการเปลี่ยนแปลงของระดับกิจกรรม (เช่น ปริมาณการผลิตหรือยอดขาย) หากกิจกรรมเพิ่ม ต้นทุนรวมเพิ่ม หากกิจกรรมลด ต้นทุนรวมลด
ต้นทุนต่อหน่วย: จะมีจำนวนคงที่ตลอดช่วงระดับกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง (Relevant Range)
ตัวอย่าง: วัตถุดิบทางตรง, ค่าแรงงานทางตรง (ที่จ่ายตามชิ้นงาน), ค่านายหน้าขายสินค้า
2. ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs: FC)
ต้นทุนรวม: จะคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าระดับกิจกรรมจะเปลี่ยนแปลงไปในช่วงระดับกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง
ต้นทุนต่อหน่วย: จะเปลี่ยนแปลงผกผันกับระดับกิจกรรม หากกิจกรรมเพิ่ม ต้นทุนต่อหน่วยจะลดลง (เพราะมีการกระจายต้นทุนคงที่รวมไปต่อหน่วยผลิตจำนวนมากขึ้น) และหากกิจกรรมลด ต้นทุนต่อหน่วยจะเพิ่มขึ้น
ตัวอย่าง: ค่าเช่าอาคารโรงงาน, เงินเดือนผู้บริหาร, ค่าเสื่อมราคาแบบเส้นตรงของอาคารและเครื่องจักร
3. ต้นทุนผสม (Mixed Costs)
คือต้นทุนที่มีส่วนประกอบของต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรรวมอยู่ด้วยกัน
ต้นทุนรวม: จะเปลี่ยนแปลงไปตามระดับกิจกรรม แต่ไม่เป็นสัดส่วนโดยตรง เพราะมีส่วนที่เป็นต้นทุนคงที่อยู่
ตัวอย่าง: ค่าโทรศัพท์ (มีค่าบริการรายเดือนคงที่ และมีค่าใช้จ่ายตามการใช้งานที่ผันแปร), ค่าไฟฟ้า (มีค่าบริการพื้นฐานคงที่ และมีค่าไฟที่ผันแปรตามปริมาณการใช้)
การวิเคราะห์ต้นทุนผสมต้องทำการแยกส่วนต้นทุนคงที่และผันแปรออกจากกันเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ เช่น วิธีการกำหนดระดับสูง-ต่ำ (High-Low Method)
1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost - FC)
เป็นต้นทุนที่ ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต หรือการขาย เช่น
• ค่าเช่าโรงงานหรือสำนักงาน
• เงินเดือนพนักงานประจำ
• ค่าประกันภัย
• ค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักร
• ค่าภาษีโรงเรือน
⸻
2. ต้นทุนผันแปร (Variable Cost - VC)
เป็นต้นทุนที่ เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตหรือยอดขาย เช่น
• ค่าวัตถุดิบ
• ค่าแรงงานตามชิ้นงาน (ค่าแรงจ้างผลิต)
• ค่าขนส่งสินค้าตามจำนวนที่ขาย
• ค่าน้ำ ค่าไฟที่เพิ่มขึ้นตามการผลิต
ผลรวมของค่าใช้จ่ายที่บริษัทต้องใช้ในการผลิตผลผลิตในระดับหนึ่ง ต้นทุนรวมนี้ประกอบด้วยต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร ซึ่งการคำนวณจะช่วยให้ผู้จัดการผลิตภัณฑ์สามารถประเมินอัตรากำไรโดยรวมได้
เช่น ค่าเช่า ค่าจ้างพนักงานประจำ หรือค่าเสื่อมราคา ในขณะที่ต้นทุนผันแปรจะเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงานทางตรง ค่าไฟฟ้า
1.ต้นทุนคงที่ 2. ต้นทุนผันแปร 3.ต้นทุนกึ่งผันแปร
1. ต้นทุนคงที่ – ค่าใช้จ่ายที่คงที่ ไม่ เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าเช่า เงินเดือน
2 . ต้นทุนแปรผัน - ค่าใช้จ่ายที่
เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าไฟฟ้า
รวมกันแล้วได้เป็น ต้นทุนรวม ซึ่งคือค่าใช้ จ่ายทั้งหมดของธุรกิจ
ต้นทุนการผลิต,ต้นทุนไม่เกี่ยวกับการผลิต ต้นทุนทั้งหมดที่เกิดจากการดำเรินงาน
ประกอบด้วย 3 ส่วน 1.ต้นทุนคงที่ FC 2.ต้นทุนผันแปรVC 3.ต้นทุนรวม TC
ต้นทุนทางตรง ต้นทุนทางอ้อม ต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร ต้นทุนกึ่งผันแปร
ต้นทุนรวมประกอบด้วย
• ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) เช่น ค่าเช่า ค่าเสื่อมราคา เงินเดือนประจำ
• ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงตามชิ้นงาน ค่าขนส่ง
• ต้นทุนทางการเงิน (Financial Cost) เช่น ดอกเบี้ยเงินกู้
• ต้นทุนทางอ้อม (Indirect Cost) เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายสำนักงาน
ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs)
เป็นต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณผลผลิตหรือระดับการผลิต เช่น
ค่าเช่าอาคารสำนักงานหรือโรงงาน
ค่าประกันภัย
เงินเดือนพนักงานส่วนที่อยู่ออฟฟิศ
ค่าเสื่อมราคาของอุปกรณ์
ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) ทุนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงตามปริมาณผลผลิต เช่น
ค่าวัตถุดิบโดยตรง
ค่าแรงงานทางตรง
ค่าคอมมิชชั่น
ค่าขนส่ง
ต้นทุนคงที่ และต้นทุนผันแปร
คงที่ = ไม่ว่าจะผลอตหรือไม่ผลิตก็ต้องจ่าย เช่นค่าอาคาร ค่าจ้างพนักงาน
ผันแปร = ต้นทุนที่เพิ่มหรือลดตามจำนวนที่ผลิต เช่นค่าวัถุดิบ ค่าบรรจุภัณฑ์.
1.ต้นทุนคงที่
2.ต้นทุนผันแปร
3.ต้นทุนกึ่งผันแปร หรือกึ่งคงที่
1 ต้นทุนคงที่
2 ต้นทุนผันแปร
ประกอบด้วย
ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs): คือต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าเช่าโรงงาน ค่าประกัน หรือค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร
ต้นทุนผันแปร (Variable Costs): คือต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน และค่าไฟฟ้า
1.ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost: FC)
2. ต้นทุนผันแปร (Variable Cost: VC)
3. ต้นทุนกึ่งผันแปร (Semi-variable Cost)
ต้นทุนรวม (Total Cost) ประกอบด้วย
ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ
ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) รวมกัน
โดยต้นทุนคงที่จะไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต ในขณะที่ต้นทุนผันแปรจะเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณผลผลิตที่ผลิตออกมา
องค์ประกอบของต้นทุนรวม
ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost): คือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นคงที่และไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต เช่น
ค่าเช่าอาคารหรือโรงงาน
ค่าเงินเดือนพนักงานประจำ
ค่าประกันภัย
ค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักร
ต้นทุนผันแปร (Variable Cost): คือค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต เช่น
ค่าวัตถุดิบ
ค่าแรงงานทางตรง
ค่าสาธารณูปโภค (เช่น ค่าไฟฟ้า, ค่าน้ำ) ที่ใช้ในการผลิต
ค่าคอมมิชชั่นการขาย
ต้นทุนรวม = ต้นทุนคงที่ + ต้นทุนผันแปร
ต้นทุนรวมประกอบด้วย
1. ต้นทุนคงที่ ค่าใช้จ่ายที่ไม่เปลี่ยนตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าเช่า เงินเดือน
2. ต้นทุนผันแปร ค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าจ้างรายชิ้น
ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost - FC)เป็นต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต
ไม่ว่าจะผลิตมากหรือน้อย ต้นทุนส่วนนี้ยังคงเท่าเดิม
ต้นทุนผันแปร (Variable Cost - VC) ป็นต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต ยิ่งผลิตมาก ต้นทุนรวมส่วนนี้ยิ่งเพิ่มขึ้น
ต้นทุนรวม = ต้นทุนคงที่ + ต้นทุนผันแปร + ต้นทุนแฝง
ต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร ต้นทุนกึ่งคงที่
1.ต้นทุนคงที่ 2.ต้นทุนผันแปร 3.ต้นทุนกึ่งผันแปร
ต้นทุนสวมคงที่+ต้นทุนรวมผันแปร
ต้นทุนรวมประกอบด้วย ต้นทุนคงที่ (Total Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Total Variable Cost)
ต้นทุนรวมประกอบด้วย ต้นทุนคงที่ และ ต้นทุนผันแปร ซึ่งเป็นต้นทุนทั้งหมดที่ธุรกิจต้องใช้ในการผลิตสินค้าหรือบริการ โดยต้นทุนคงที่คือค่าใช้จ่ายที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าเช่า ค่าจ้างพนักงานประจำ หรือค่าเสื่อมราคา ในขณะที่ต้นทุนผันแปรจะเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงานทางตรง หรือค่าไฟฟ้า
องค์ประกอบของต้นทุนรวม
ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs):
ค่าใช้จ่ายที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตตัวอย่าง: ค่าเช่าอาคาร, ค่าจ้างผู้บริหาร, ค่าประกันภัย, ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร
ต้นทุนผันแปร (Variable Costs):
ค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิตตัวอย่าง: ค่าวัตถุดิบ, ค่าแรงงานทางตรง, ค่าขนส่ง, ค่าไฟฟ้าและน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต
ต้นทุนรวมประกอบด้วยต้นทุนคงที่และต้นทุนแปรผัน
หนี้สิน Debt - D
ส่วนของผู้ถือหุ้น Equity - E
ต้นทุนคงที่กับต้นทุนผันแปร
ต้นทุนรวม (Total Cost) ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 2 ส่วน คือ ต้นทุนคงที่ และ ต้นทุนผันแปร
ต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร
ต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร
ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs) ค่าใช้จ่ายที่คงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงตามระดับการผลิต แม้จะยังไม่มีการผลิตก็ต้องจ่าย ค่าเช่า, เงินเดือนพนักงานประจำ, เบี้ยประกัน, ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์
ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) ค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต เมื่อผลิตมากขึ้น ต้นทุนนี้ก็เพิ่มขึ้น ค่าวัตถุดิบ, ค่าจ้างแรงงานชั่วคราว, ค่าบรรจุภัณฑ์, ค่าขนส่ง78
ต้นทุนคงที่ และ ต้นทุนผันแปร
ต้นทุนรวม (Total Cost) ประกอบด้วย ต้นทุนคงที่รวม (Total Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Total Variable Cost) ซึ่งสามารถคำนวณได้จากสูตร: ต้นทุนรวม = ต้นทุนคงที่รวม + ต้นทุนผันแปร
ต้นทุนรวมประกอบด้วย 2 ส่วนคือ
1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) เช่น ค่าเช่า เงินเดือน
2. ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรง
โครงสร้างต้นทุน ของบริษัท (และต้นทุนรวม) ประกอบด้วยสององค์ประกอบ ได้แก่ ต้นทุนคงที่ (FC) และ ต้นทุนผันแปร (VC) ซึ่งแสดงถึงต้นทุนการผลิตทั้งหมดที่เกิดขึ้นของบริษัท
ต้นทุนรวม (Total Cost) ประกอบด้วย ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) และ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) รวมกัน โดยต้นทุนคงที่คือค่าใช้จ่ายที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต (เช่น ค่าเช่าอาคาร) และต้นทุนผันแปรคือค่าใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต (เช่น ค่าวัตถุดิบและค่าแรงงาน)
1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost : FC)
เป็นต้นทุนที่ ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตหรือการขาย
ไม่ว่าผลิตมากหรือน้อย ต้นทุนส่วนนี้ก็ยังคงเท่าเดิม
ตัวอย่างเช่น
• ค่าเช่าสถานที่
• เงินเดือนพนักงานประจำ
• ค่าประกันภัย
• ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร
⸻
2. ต้นทุนผันแปร (Variable Cost : VC)
เป็นต้นทุนที่ เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตหรือยอดขาย
ผลิตมาก → ต้นทุนมาก / ผลิตน้อย → ต้นทุนน้อย
ตัวอย่างเช่น
• ค่าวัตถุดิบ
• ค่าแรงจ้างตามชิ้นงาน
• ค่าขนส่งตามจำนวนสินค้า
• ค่าน้ำ ค่าไฟ (บางส่วนที่เพิ่มตามการผลิต)