Scan here!
ประเภทของพฤติกรรมต้นทุน
ประเภทของพฤติกรรมต้นทุนมี 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs) ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) และ ต้นทุนผสม (Mixed Costs)
1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs)
เป็นต้นทุนที่มีจำนวนรวมไม่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับกิจกรรมหรือปริมาณการผลิต
ตัวอย่าง: ค่าเช่าอาคารโรงงาน, เงินเดือนพนักงานประจำ, ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร
2. ต้นทุนผันแปร (Variable Costs)
เป็นต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกับระดับกิจกรรม เช่น การผลิตหรือการขาย
เมื่อกิจกรรมเพิ่มขึ้น ต้นทุนรวมจะสูงขึ้น และเมื่อกิจกรรมลดลง ต้นทุนรวมจะลดลง
ตัวอย่าง: ค่าวัตถุดิบทางตรง, ค่าแรงงานทางตรง, ค่านายหน้า
3. ต้นทุนผสม (Mixed Costs)
เป็นต้นทุนที่มีทั้งส่วนที่เป็นต้นทุนคงที่และส่วนที่เป็นต้นทุนผันแปร
มีองค์ประกอบคงที่ที่ต้องจ่ายแน่นอน และมีส่วนที่ผันแปรตามการใช้งาน
ตัวอย่าง: ค่าโทรศัพท์ (มีค่าบริการรายเดือนคงที่ บวกกับค่าโทรตามการใช้งานที่ผันแปร), ค่าสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้าอาจมีส่วนของค่าบริการคงที่และส่วนผันแปรตามการผลิต)
พฤติกรรมต้นทุนหลักแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) ที่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับกิจกรรม, ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) ที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามระดับกิจกรรม, และ ต้นทุนผสม (Mixed Cost) ที่มีทั้งส่วนคงที่และส่วนแปร
1. ต้นทุนผันแปร (Variable Costs)
ลักษณะ:
ต้นทุนรวมจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามสัดส่วนของระดับกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง
ตัวอย่าง:
วัตถุดิบทางตรง
ค่าแรงงานทางตรงที่คิดเป็นรายชั่วโมง
ค่านายหน้าการขาย
2. ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs)
ลักษณะ:
ต้นทุนรวมจะคงที่และไม่เปลี่ยนแปลงตามระดับกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ตัวอย่าง:
ค่าเช่าอาคาร
เงินเดือนพนักงาน
ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร (วิธีเส้นตรง)
3. ต้นทุนผสม (Mixed Costs)
ลักษณะ:
ต้นทุนนี้มีทั้งองค์ประกอบของต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรผสมกันอยู่
ตัวอย่าง:
ค่าโทรศัพท์ (มีค่าบริการพื้นฐานคงที่ + ค่าโทรตามการใช้งานที่แปรผัน)
ค่าไฟฟ้า (มักมีค่าบริการคงที่ + ค่าใช้จ่ายตามการใช้ที่แปรผัน)
3 ประเภทหลัก ได้แก่ ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) คือ ต้นทุนรวมจะไม่เปลี่ยนแปลงตามระดับกิจกรรม เช่น การผลิตหรือยอดขาย
ที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามกิจกรรม, ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) คือ ต้นทุนรวมจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับระดับกิจกรรม ยิ่งกิจกรรมเพิ่มขึ้น ต้นทุนรวมยิ่งสูงขึ้น
ตัวอย่าง: ค่าวัตถุดิบทางตรง, ค่าแรงงานทางตรง, ค่านายหน้าการขายที่เปลี่ยนแปลงตามระดับกิจกรรม และต้นทุนผสม (Mixed Cost) ที่ประกอบด้วยทั้งสองส่วน เช่น ค่าโทรศัพท์ มีค่าบริการรายเดือนคงที่ และค่าโทรตามการใช้งานผันแปร ค่าไฟฟ้า
ประเภทของพฤติกรรมต้นทุน หมายถึง ลักษณะความเปลี่ยนแปลงของ ต้นทุน เมื่อ ระดับกิจกรรมหรือปริมาณการผลิต/ขาย เปลี่ยนไป
คือ “ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของต้นทุน” เมื่อระดับกิจกรรมหรือปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นหรือลดลง
พูดง่าย ๆ คือ ต้นทุนจะ “คงที่” หรือ “เปลี่ยนแปลง” อย่างไรเมื่อเราผลิตมากขึ้นหรือน้อยลงนั่นเอง
แบ่งเป็น 3 ประเภท
1.ต้นทุนคงที่
2. ต้นทุนผันแปร
3. ต้นทุนผสม
ประเภทของพฤติกรรมต้นทุนมี 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs) ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) และ ต้นทุนผสม (Mixed Costs)
1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs)
เป็นต้นทุนที่มีจำนวนรวมไม่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับกิจกรรมหรือปริมาณการผลิต
ตัวอย่าง: ค่าเช่าอาคารโรงงาน, เงินเดือนพนักงานประจำ, ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร
2. ต้นทุนผันแปร (Variable Costs)
เป็นต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกับระดับกิจกรรม เช่น การผลิตหรือการขาย
เมื่อกิจกรรมเพิ่มขึ้น ต้นทุนรวมจะสูงขึ้น และเมื่อกิจกรรมลดลง ต้นทุนรวมจะลดลง
ตัวอย่าง: ค่าวัตถุดิบทางตรง, ค่าแรงงานทางตรง, ค่านายหน้า
1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs)เป็นต้นทุนที่มีจำนวนรวมคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิตหรือการขายในช่วงเวลาที่กำหนด
Ex. เงินเดือนพนักงาน, ค่าเช่าโรงงาน, ค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร
2. ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) เป็นต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับกิจกรรม (การผลิตหรือการขาย) โดยตรง ยิ่งผลิตมาก ต้นทุนรวมยิ่งสูงขึ้น
Ex.วัตถุดิบทางตรง, ค่าแรงงานทางตรง, ค่านายหน้าการขาย
3. ต้นทุนผสม (Mixed Costs) เป็นต้นทุนที่มีทั้งส่วนที่เป็นต้นทุนคงที่และส่วนที่เป็นต้นทุนผันแปร
Ex. ค่าโทรศัพท์ (มีค่าบริการพื้นฐานคงที่บวกกับค่าใช้จ่ายตามปริมาณการใช้งานผันแปร), ค่าไฟฟ้า
ต้นทุนรวมของกิจการจะเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างไร เช่น ปริมาณการผลิต ยอดขาย หรือ ชม.การทำงาน
ประเภทของพฤติกรรมต้นทุนมี 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs) ซึ่งมีจำนวนรวมไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณกิจกรรม, ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) ซึ่งจำนวนรวมเปลี่ยนแปลงตามปริมาณกิจกรรม, และต้นทุนผสม (Mixed Costs) ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร
มี3ประเภท
1.ต้นทุนคงที่
2.ต้นทุนผสม
3.ต้นทุนแปรผัน
มี1.ต้นทุนคงที่
2.ต้นทุนผันแปร
3.ต้นทุนผสม
4.ต้นทุนก้าวหน้า
ผันแปร คงที่ ผสม และขั้น
ต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร ต้นทุนกึ่งผันแปร ต้นทุนกึ่งคงที่
1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost)
• ความหมาย: ต้นทุนที่ ไม่เปลี่ยนแปลงตามระดับกิจกรรม ภายในช่วงที่กำหนด (Relevant Range)
2. ต้นทุนผันแปร (Variable Cost)
• ความหมาย: ต้นทุนที่ เปลี่ยนแปลงโดยตรงตามระดับกิจกรรม
3. ต้นทุนกึ่งผันแปร (Mixed Cost)
• ความหมาย: ต้นทุนที่มีทั้ง ส่วนคงที่และส่วนผันแปรรวมกัน
การกำหนดราคาสินค้าและบริการ
การวางแผนการผลิตและควบคุมต้นทุน
การวิเคราะห์ความคุ้มทุนและการทำกำไร
การตัดสินใจลงทุนและเลือกทางเลือกทางการเงิน
ประเภทของพฤติกรรมต้นทุนมี 3 ประเภท คือ
1. ต้นทุนคงที่
2. ต้นทุนผันแปร
3. ต้นทุนกึ่งผันแปร
ต้นทุนผันแปร
ต้นทุนคงที่
ต้นทุนขั้นตอน
ต้นทุนผสม
ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost)
ไม่เปลี่ยนตามปริมาณการผลิต (ภายในช่วงหนึ่ง)
ต้นทุนผันแปร (Variable Cost)
เปลี่ยนแปลง โดยตรงตามปริมาณการผลิต
ต้นทุนผสม (Mixed Cost)
มีทั้งส่วนคงที่และผันแปรรวมกัน
ต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร ต้นทุนกึ่งผันแปร
ประกอบด้วย
ต้นทุนคงที่
ต้นทุนแปลผัน
ต้นทุนกึ่งแปรผัน
FC VC
พฤติกรรมต้นทุนสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้ ต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร ต้นทุนผสม ต้นทุนขั้นบันได
ต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร ต้นทุนกึ่งผันแปร
1. ต้นทุนผันแปร (Variable Costs)
• ต้นทุนรวม: เปลี่ยนแปลงตามสัดส่วนของกิจกรรม (เพิ่มขึ้น/ลดลง)
• ต้นทุนต่อหน่วย: คงที่
• ตัวอย่าง: วัตถุดิบทางตรง, ค่าคอมมิชชัน
2. ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs)
• ต้นทุนรวม: คงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงตามระดับกิจกรรม ภายในช่วงที่เกี่ยวข้อง (Relevant Range)
• ต้นทุนต่อหน่วย: เปลี่ยนแปลง (ลดลงเมื่อกิจกรรมเพิ่ม)
• ตัวอย่าง: ค่าเช่า, เงินเดือนผู้บริหาร
3. ต้นทุนผสม (Mixed Costs)
• ประกอบด้วยส่วนที่เป็นคงที่และส่วนที่เป็นผันแปรรวมกัน
• ตัวอย่าง: ค่าสาธารณูปโภค (มีค่าคงที่ขั้นต่ำ + ค่าผันแปรตามการใช้)
4. ต้นทุนตามขั้น (Step Costs)
• ต้นทุนรวม: คงที่ในแต่ละช่วงของกิจกรรม แต่จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างก้าวกระโดด (เป็นขั้น) เมื่อกิจกรรมข้ามช่วงที่กำหนด
• ตัวอย่าง: เงินเดือนหัวหน้างาน (ต้องจ้างเพิ่มเมื่อพนักงานเกินจำนวนที่กำหนด)
ประเภทของพฤติกรรมต้นทุน (Cost Behavior Types) หมายถึง ลักษณะที่ต้นทุนเปลี่ยนแปลงตามปริมาณกิจกรรมขององค์กร
1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) – ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าเช่าโรงงาน ค่าประกัน
2. ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) – เปลี่ยนแปลงตรงกับปริมาณการผลิต เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงตามชั่วโมงการผลิต
3. ต้นทุนกึ่งผันแปร/กึ่งคงที่ (Mixed/ Semi-Variable Cost) – มีส่วนคงที่และส่วนผันแปร เช่น ค่าโทรศัพท์พื้นฐาน + ค่าใช้ตามการใช้งาน
4. ต้นทุนขั้นเพิ่ม (Step Cost) – ค่อย ๆ เพิ่มเป็นขั้นเมื่อระดับกิจกรรมสูงขึ้น เช่น ต้องจ้างพนักงานเพิ่มเมื่อผลิตเกินจำนวนหนึ่ง
ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs)
ต้นทุนผันแปร (Variable Costs)
ต้นทุนผสม (Mixed Costs)
ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs)
ต้นทุนผันแปร (Variable Costs)
ต้นทุนผสม (Mixed Costs) ครับ
พฤติกรรมต้นทุน (Cost Behavior) หมายถึง ลักษณะการเปลี่ยนแปลงของต้นทุนเมื่อปริมาณการผลิตหรือระดับกิจกรรมขององค์กรเปลี่ยนแปลง กล่าวคือ เมื่อต้นทุนมีการเพิ่มหรือลดตามระดับการผลิต ต้นทุนนั้นจะมี “พฤติกรรม” ที่แตกต่างกัน ซึ่งผู้บริหารต้องเข้าใจเพื่อใช้วางแผนควบคุมต้นทุน กำหนดราคาขาย และตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยทั่วไป พฤติกรรมต้นทุนแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่
1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost)
คือ ต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต ไม่ว่าจะผลิตมากหรือน้อย ต้นทุนก็ยังเท่าเดิม เช่น ค่าเช่าที่ดินหรืออาคาร เงินเดือนพนักงานประจำ ค่าประกันภัย หรือค่าเสื่อมราคาเครื่องจักร เป็นต้น ต้นทุนคงที่มักเกี่ยวข้องกับทรัพยากรที่ต้องใช้ระยะยาว และจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อขนาดของธุรกิจเปลี่ยนไป เช่น การขยายโรงงานหรือซื้อเครื่องจักรเพิ่ม
2. ต้นทุนผันแปร (Variable Cost)
หมายถึง ต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิตโดยตรง หากผลิตมากต้นทุนจะเพิ่ม หากผลิตน้อยต้นทุนจะลด เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าจ้างแรงงานรายวัน ค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิต และค่าขนส่งสินค้า ต้นทุนผันแปรจึงสะท้อนต้นทุนที่สัมพันธ์โดยตรงกับการผลิตในแต่ละช่วงเวลา และผู้บริหารสามารถควบคุมหรือลดลงได้ในระยะสั้น
3. ต้นทุนกึ่งผันแปรหรือกึ่งคงที่ (Semi-Variable / Mixed Cost)
เป็นต้นทุนที่มีลักษณะผสมระหว่างต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร กล่าวคือ มีส่วนหนึ่งที่คงที่ไม่ว่าการผลิตจะมากหรือน้อย และอีกส่วนหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงตามระดับการผลิต เช่น ค่าโทรศัพท์ (มีค่าบริการรายเดือนคงที่ และค่าใช้ส่วนเกินตามการใช้งาน) หรือค่าไฟฟ้า (มีค่าบริการขั้นต่ำและค่าใช้จ่ายตามหน่วยการใช้) ต้นทุนประเภทนี้จึงต้องแยกองค์ประกอบเพื่อวิเคราะห์ได้ถูกต้อง
นอกจากนี้ บางตำราอาจกล่าวถึง ต้นทุนขั้นบันได (Step Cost) ซึ่งเป็นต้นทุนที่คงที่อยู่ในช่วงหนึ่งของปริมาณการผลิต แต่จะเพิ่มขึ้นเมื่อการผลิตเกินระดับที่กำหนด เช่น เมื่อบริษัทต้องจ้างพนักงานเพิ่มอีกคนหากการผลิตเกินจากขีดจำกัดเดิม
โดยสรุป พฤติกรรมต้นทุนแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง “ต้นทุน” กับ “ระดับกิจกรรม” ซึ่งความเข้าใจในพฤติกรรมต้นทุนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวางแผนต้นทุน การควบคุมค่าใช้จ่าย และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ขององค์กร เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำกำไรสูงสุด
ประเภทของพฤติกรรมต้นทุน
ต้นทุนผันแปร (Variable Costs): ต้นทุนรวมจะเปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกับการเปลี่ยนแปลงของกิจกรรม เช่น หากการผลิตเพิ่มขึ้น ต้นทุนรวมจะสูงขึ้น
ตัวอย่าง: ค่าวัตถุดิบทางตรง, ค่าแรงงานทางตรง
ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs): ต้นทุนรวมจะไม่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับกิจกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงเวลาหนึ่ง
ตัวอย่าง: ค่าเช่าโรงงาน, เงินเดือนผู้บริหาร, ค่าเสื่อมราคา (วิธีเส้นตรง)
ต้นทุนผสม (Mixed Costs): ต้นทุนที่มีทั้งส่วนคงที่และส่วนผันแปรผสมกันอยู่
ตัวอย่าง: ค่าโทรศัพท์ (มีค่าบริการพื้นฐานคงที่ และค่าโทรตามการใช้งานที่ผันแปร)
“ลักษณะการเปลี่ยนแปลงเมื่อระดับปริมาณการผลิตหรือปริมาณกิจกรรมเปลี่ยนไป” โดยหลัก ๆ แบ่งได้ 3 ประเภทใหญ่ และมีอีก 2 ประเภทย่อยที่มักใช้ในงานบัญชีบริหาร
ต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร และ ต้นทุนผสม
คงที่
ผันแปร
ผสม
ต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปร ต้นทุนกึ่งผันแปร ต้นทุนก้าวหน้า
1.ต้นทุนคงที่
2.ต้นทุนผันแปร
3.ต้นทุนผสม
ประเภทของพฤติกรรมต้นทุนมี 3 ประเภทหลัก คือ
1. ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) – ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าเช่า เงินเดือนประจำ
2. ต้นทุนผันแปร (Variable Cost) – เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิต เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงต่อหน่วย
3. ต้นทุนกึ่งผันแปร (Semi-variable Cost) – มีทั้งส่วนคงที่และผันแปร เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ โทรศัพท์
ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs) ซึ่งมีจำนวนรวมไม่เปลี่ยนแปลงตามระดับกิจกรรม, ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามระดับกิจกรรม, และต้นทุนผสม (Mixed Costs) ซึ่งมีองค์ประกอบทั้งคงที่และผันแปร
ต้นทุนคงที่ ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณกิจกรรม, ต้นทุนผันแปร ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามปริมาณกิจกรรม และ ต้นทุนผสม