Scan here!
ความหมายของต้นทุนค่าเสียโอกาส (Oppoetunity Cost)
ต้นทุนค่าเสียโอกาส = "สิ่งที่คุณสละไป" จากการเลือกทางใดทางหนึ่งหรือมูลค่าทางเลือกที่ดีที่สุดที่คุณต้องสละไป
ต้นทุนค่าเสียโอกาส หมายถึง มูลค่าของผลประโยชน์ที่เราต้องสูญเสียไป จากการเลือกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแทนอีกทางเลือกหนึ่งที่อาจให้ผลตอบแทนดีกว่า กล่าวคือ เป็น “ต้นทุนที่มองไม่เห็น” แต่เกิดขึ้นจริงทุกครั้งที่เราตัดสินใจ เพราะการเลือกหนึ่งทาง หมายถึงการสละโอกาสจากอีกทาง
ต้นทุนค่าเสียโอกาส คือ มูลค่าของผลประโยชน์ที่สูญเสียจาก “ทางเลือกที่ดีที่สุดถัดไป” ที่เราไม่ได้เลือก ซึ่งช่วยให้การตัดสินใจทางเศรษฐกิจมีความรอบคอบและคุ้มค่ามากขึ้น
ค่าที่ทำให้เราไม่สามารถทำได้เต็มที่เช่นการขายของที่ได้แค่ช่วงฤดูเช่นการกรีดยางในหน้าฝนจะกรีดได้ไม่เต็มที่ทำให้เสียโอกาส
ต้นทุนค่าเสียโอกาส คือ ค่าของสิ่งที่เราต้องเสียไป เมื่อเลือกทางเลือกหนึ่งแทนอีกทางเลือกหนึ่งเป็นการมองให้เห็นว่า “สิ่งที่ไม่ได้เลือก” ก็มีค่า
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ มูลค่าของผลประโยชน์สูงสุดที่ต้องสูญเสียไป เมื่อเราเลือกทำกิจกรรมหนึ่ง แทนที่จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง หรือพูดอีกอย่างคือ เป็น "ต้นทุนของทางเลือกที่ดีที่สุดถัดไป" ที่เราไม่ได้เลือก ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกนำเงินไปฝากธนาคารที่ให้ผลตอบแทน2% ต่อปี ต้นทุนค่าเสียโอกาสคือผลตอบแทน 5% ที่คุณอาจได้รับจากการลงทุนในพันธบัตร ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่คุณเสียสละไป
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ มูลค่าของผลตอบแทนที่ดีที่สุดที่เราต้องสละทิ้งไป เมื่อเราตัดสินใจเลือกทำกิจกรรมหรือทางเลือกใดทางเลือกหนึ่ง
ค่าเสียโอกาสคือค่าที่เสียไปกับแนวทางที่เราไม่ได้เลือกเป็นมูลค่าที่เราจะถ้าเลือก
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost)
คือ มูลค่าของผลประโยชน์ที่สูญเสียไปจากทางเลือกที่ดีที่สุดถัดไป เมื่อมีการตัดสินใจเลือกใช้ทรัพยากรในทางใดทางหนึ่ง
ตัวอย่าง
บริษัทมีงบลงทุน 10 ล้านบาท
• โครงการ A ให้ผลตอบแทน 12%
• โครงการ B ให้ผลตอบแทน 9%
ถ้าบริษัทเลือกทำ โครงการ A,
ต้นทุนค่าเสียโอกาส ของการลงทุนนี้ คือ “ผลตอบแทน 9% จากโครงการ B” ที่บริษัทสละไป
ต้นทุนค่าเสียโอกาส คือสิ่งที่เราพลาดไปเพราะเลือกทำอย่างหนึ่ง แทนที่จะเลือกอีกอย่างหนึ่ง
ความหมายของต้นทุนคือ มูลค่าของทรัพย์สินเราที่ใช้ไปในการดำเนินกิจการใดกิจการหนึ่ง เช่น การผลิต การลงทุน หรือการให้บริการ
เป็นสิ่งที่บริษัทหรือบุคคล จ่ายจริง หรือ “สูญเสียจริง” เพื่อให้ได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมา
ในส่วนของค่าเสียโอกาสคือ มูลค่าของทางเลือกที่ดีที่สุดที่คุณต้องสละไป เมื่อคุณเลือกทำบางสิ่ง เป็น ต้นทุนทางเลือก ที่ ไม่ได้จ่ายจริงเป็นเงิน แต่เป็นสิ่งที่ “คุณเสียไป” เพราะเลือกทำอีกทางหนึ่ง
ค่าใช้จ่ายหรือมูลค่าของทางเลือกที่ดีที่สุดที่เราต้องยอมเสียไปเนื่องจากการเลือกทางเลือกใดทางเลือกหนึ่ง
ต้นทุนค่าเสียโอกาส(Opportunity Cost) คือ มูลค่าของประโยชน์ที่เราต้องเสียไป เพราะเลือกใช้ทรัพยากร (เช่น เงิน เวลา แรงงาน) ไปทำสิ่งหนึ่ง แทนที่จะทำอีกสิ่งหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด
ต้นทุนที่เราต้องเผื่อใจว่าเราจะเสียเงินส่วนนี้ไปได้ ถ้าพลาดอะไรบางอย่าง ทำไม่ทัน หรือเลือกหนทางที่คิดว่าใช่แต่ไม่ใช่
มูลค่าของผลตอบแทนจากกิจกรรมที่สูญเสียโอกาสไปในการเลือกทำกิจกรรมอย่างหนึ่ง ทั้งที่ตัวเลือกที่มีอยู่ก็เป็นตัวเลือกที่ต้องการเหมือนกัน แต่ไม่สามารถเลือกพร้อมกันได้
มูลค่าของผลประโยชน์ที่ดีที่สุดที่สูญเสียไปจากการเลือกทำอย่างหนึ่ง แทนที่จะเลือกอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่ไม่ได้เลือก
มันคือ ผลประโยชน์ที่คุณพลาดไป จากการไม่เลือกทางเลือกที่ดีที่สุดอันดับสอง
เป็น ต้นทุนที่ซ่อนอยู่ (Implicit Cost) ที่ไม่ได้จ่ายออกไปเป็นเงินจริง แต่นักเศรษฐศาสตร์ใช้เพื่อประเมินการตัดสินใจที่ดีที่สุดภายใต้ทรัพยากรที่จำกัด (เวลา เงิน หรือแรงงาน)
ตัวอย่าง: ถ้าคุณมีเงินอยู่ $100 มี 2 ทางเลือก:
ซื้อหนังสือ (ได้ความรู้มูลค่า $120)
ซื้อเสื้อยืด (ได้ความพอใจมูลค่า $100)
ถ้าคุณเลือกซื้อเสื้อยืด ($100) ต้นทุนค่าเสียโอกาส ของการตัดสินใจครั้งนี้คือ มูลค่าของความรู้ $120 ที่คุณพลาดไปจากการไม่ได้ซื้อหนังสือ ครับ
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) หมายถึง
“มูลค่าของผลประโยชน์ที่เราสูญเสียไปจากการเลือกทางเลือกหนึ่ง แทนที่จะเลือกอีกทางเลือกที่ให้ประโยชน์สูงกว่า”
พูดง่าย ๆ คือ เมื่อเราตัดสินใจใช้ทรัพยากร (เช่น เงิน เวลา หรือแรงงาน) ไปกับสิ่งหนึ่ง เรากำลัง “เสียโอกาส” ที่จะได้ผลตอบแทนจากสิ่งอื่นที่อาจดีกว่าไปด้วย
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ
มูลค่าของผลประโยชน์สูงสุดที่เราต้องสละทิ้งไป เมื่อเราเลือกทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ในขณะที่มีทางเลือกอื่นที่ดีรองลงมาที่เราไม่ได้เลือก
ต้นทุนค่าเสียโอกาส หมายถึง มูลค่าของ ทางเลือกที่ดีที่สุดที่เราต้องสละไป เมื่อเรา ตัดสินใจเลือกทางเลือกใดทางเลือกหนึ่ง
พูดง่ายๆ ก็คือ "สิ่งที่เราทิ้งไป" เมื่อเรา เลือกสิ่งหนึ่งสิ่งใด นี่ไม่ใช่ต้นทุนทางการ เงินที่จับต้องได้โดยตรง แต่เป็นต้นทุนทาง เศรษฐกิจที่มองไม่เห็น
มูลค่าของประโยชน์หรือผลตอบแทนที่เราต้องเสียไปจากการเลือกทางเลือกหนึ่ง แทนที่จะเลือกอีกทางเลือกหนึ่งที่มีศักยภาพให้ผลตอบแทนสูงกว่า
มูลค่าของประโยชน์ที่เราต้องเสียไปจากการเลือกทำสิ่งหนึ่ง แทนที่จะเลือกทำอีกสิ่งหนึ่งที่ดีที่สุดรองลงมา
ผลประโยชน์ที่เราต้องเสียเพราะต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง
มูลค่าของทางเลือกที่ดีที่สุดที่ต้องเสียสละไป เมื่อต้องตัดสินใจเลือกทางเลือกอื่น ที่ไม่ได้เกี่ยวกับค่าใช้จ่าย
1เป็นตัวเงิน
2ไม่เป็นตัวเงิน เช่นเวลา
ต้นทุนค่าเสียโอกาสคือประโยชน์ที่เราต้องเสียไปจากการเลือกทำสิ่งหนึ่ง แทนที่จะเลือกอีกสิ่งหนึ่ง
สิ่งหนึ่งที่เราเสียไป จากการเลือกสิ่งหนึ่งแทนอีกสิ่งหนึ่ง
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ มูลค่าของผลตอบแทนหรือผลประโยชน์สูงสุดที่คุณต้องสละทิ้งไป เมื่อคุณตัดสินใจเลือกทำกิจกรรมหรือทางเลือกใดทางเลือกหนึ่งจากหลายๆ ทางเลือกที่มีอยู่
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost)
หมายถึง “มูลค่าของประโยชน์ที่เราสูญเสียไปจากทางเลือกหนึ่ง เมื่อเราเลือกอีกทางเลือกหนึ่งแทน” หรือพูดง่าย ๆ คือ “สิ่งที่เราต้องสละไปเพื่อได้สิ่งอื่นมา”
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ มูลค่าของผลตอบแทนจากทางเลือกที่ดีที่สุดที่ต้องสูญเสียไป เนื่องจากการตัดสินใจเลือกทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งจากหลายทางเลือกที่ต้องการ
กล่าวคือ เมื่อเรามีทรัพยากรจำกัด (เช่น เงิน เวลา แรงงาน) และต้องตัดสินใจเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง ต้นทุนค่าเสียโอกาสจึงเป็น ผลประโยชน์สูงสุด ที่เราพลาดโอกาสจะได้รับจากทางเลือกอื่นที่เราไม่ได้เลือกทำ
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงิน 500,000 บาท และมี 2 ทางเลือก:
นำเงินไปลงทุนในหุ้น คาดว่าจะได้ผลตอบแทน 15,000 บาท นำเงินไปฝากธนาคาร คาดว่าจะได้ดอกเบี้ย 10,000 บาท
ถ้าคุณเลือก ลงทุนในหุ้น ต้นทุนค่าเสียโอกาสของคุณคือ ดอกเบี้ย 10,000 บาท ที่คุณพลาดโอกาสจะได้รับจากการฝากธนาคาร ซึ่งเป็นผลตอบแทนสูงสุดของทางเลือกที่คุณสละทิ้งไป
ต้นทุนค่าเสียโอกาสเป็นแนวคิดสำคัญทางเศรษฐศาสตร์ที่ช่วยในการตัดสินใจ เนื่องจากมันทำให้เห็นถึง "ต้นทุนที่ซ่อนอยู่" หรือ ต้นทุนแฝง (Implicit Cost) ที่ไม่สามารถมองเห็นได้จากการคำนวณทางบัญชี
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) คือ มูลค่าของผลตอบแทนสูงสุดที่เราสูญเสียไป จากการที่เราเลือกทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งแทนที่จะเลือกทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดรองลงมา
คือ มูลค่าของผลตอบแทนหรือผลประโยชน์สูงสุด ที่เราต้อง สูญเสียไป จากการตัดสินใจเลือกทางเลือกหนึ่ง
ผลประโยชน์หรือกำไรที่เราต้องเสียไป เนื่องจากการเลือกทางเลือกหนึ่งแทนที่จะเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดถัดไป 12
“สิ่งที่เสียไปเพราะเลือกสิ่งนี้ แทนที่จะเลือกสิ่งที่อาจได้กำไรมากกว่า”
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) หมายถึง
“มูลค่าของสิ่งที่เราต้องเสียไปจากการเลือกทำสิ่งหนึ่ง แทนที่จะเลือกทำอีกสิ่งหนึ่งที่มีทางเลือกดีที่สุดถัดไป”
กล่าวอีกอย่างคือ ต้นทุนค่าเสียโอกาส คือ “ประโยชน์สูงสุดที่เรา ไม่ได้รับ เพราะเลือกทางเลือกอื่นไปแล้ว”
เป็นแนวคิดพื้นฐานในเศรษฐศาสตร์ที่ใช้เพื่อวัดต้นทุนที่แท้จริงของการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ทรัพยากร เวลา หรือเงินทุน
---
🔹 ตัวอย่างประกอบ
1. กรณีการลงทุน
ถ้ามีเงิน 100,000 บาท และเลือกฝากธนาคารดอกเบี้ย 1% ต่อปี
แทนที่จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่ให้ผลตอบแทน 3%
→ ต้นทุนค่าเสียโอกาส คือ 2% (ผลตอบแทนที่เสียไปจากการไม่ได้ลงทุนในพันธบัตร)
2. กรณีการตัดสินใจส่วนบุคคล
ถ้าเลือกเรียนปริญญาโท 2 ปี แทนที่จะทำงานได้เงินเดือน 30,000 บาท
→ ต้นทุนค่าเสียโอกาส คือ รายได้ 30,000 x 24 เดือน = 720,000 บาท ที่เสียโอกาสไป
3. กรณีการใช้ทรัพยากรของธุรกิจ
บริษัทใช้ที่ดินของตนเองในการสร้างโรงงาน
→ ต้นทุนค่าเสียโอกาสคือค่าเช่าที่ดินที่บริษัทจะได้รับ หากนำที่ดินไปให้ผู้อื่นเช่าแทน
---
🔹 สรุปสั้น ๆ
หัวข้อ ความหมาย
คำจำกัดความ มูลค่าของสิ่งที่ต้องสละไปเมื่อเลือกทางเลือกหนึ่ง
จุดประสงค์ เพื่อวัดต้นทุนที่แท้จริงของการตัดสินใจ
ลักษณะ ไม่ปรากฏในบัญชีจริง แต่สำคัญต่อการวิเคราะห์เชิงเศรษฐศาสตร์
ตัวอย่าง รายได้ที่เสียไปจากการเลือกทางเลือกอื่น
ผลประโยชน์ที่เสียไปจากการไม่เลือกทางเลือกที่ดีที่สุด
มูลค่าของผลประโยชน์สูงสุดที่ต้องสูญเสียไป จากการที่เราเลือกทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง และต้อง ละทิ้ง ทางเลือกอื่นที่สามารถทำได้
ต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost)
หมายถึง 👉 มูลค่าของผลประโยชน์ที่เราสูญเสียไปจากการเลือกทางเลือกหนึ่ง แทนที่จะเลือกอีกทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด
---
💡 อธิบายง่าย ๆ
ทุกการตัดสินใจ “เลือก” สิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ย่อมมี “สิ่งที่ไม่ได้เลือก” ซึ่งอาจให้ผลตอบแทนได้เช่นกัน
สิ่งนั้นคือ “ค่าเสียโอกาส”
---
🧭 ตัวอย่าง
1. นักลงทุนมีเงิน 100,000 บาท
เลือกลงทุนใน หุ้นกู้ ได้ผลตอบแทน 4% ต่อปี
แต่ถ้านำเงินไปฝากประจำ จะได้ 2%
👉 ค่าเสียโอกาสของการฝากเงิน คือ ผลตอบแทน 2% ที่ไม่ได้รับจากการลงทุนในหุ้นกู้
2. บริษัทมีเงินสดในมือ 10 ล้านบาท
ใช้สร้างโรงงานใหม่
แทนที่จะนำไปชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ย 5%
👉 ค่าเสียโอกาสของการสร้างโรงงาน คือ ดอกเบี้ย 5% ที่บริษัทต้องจ่ายต่อไป เพราะไม่ได้ชำระหนี้
---
⚖️ สรุปสั้น ๆ
> ต้นทุนค่าเสียโอกาส = ผลประโยชน์สูงสุดที่ต้องสละไปจากทางเลือกที่ไม่ได้เลือก
---
ต้องการให้ฉันช่วยเขียน นิยามแบบใช้ในการสอบ (สั้น กระชับ ใช้ในข้อเขียน) ด้วยไหมคะ?
มูลค่าของผลประโยชน์หรือสิ่งที่เราต้องเสียไปจากการเลือกทำสิ่งหนึ่งแทนที่จะเลือกอีกสิ่งหนึ่ง
มูลค่าของผลตอบแทนจากกิจกรรมที่สูญเสียโอกาสไปในการเลือกทำกิจกรรมอย่างหนึ่ง ทั้งที่ตัวเลือกที่มีอยู่ก็เป็นตัวเลือกที่ต้องการเหมือนกัน แต่ไม่สามารถเลือกพร้อมกันได้
มูลค่าของประโยชน์หรือผลตอบแทนที่เราต้องเสียไปจากการเลือกทำสิ่งหนึ่ง แทนที่จะเลือกอีกสิ่งหนึ่ง