การวิเคราะห์รายงานทางการเงินสามารถเปรียบเทียบได้กับหลายปัจจัยเพื่อให้เข้าใจสถานการณ์และประสิทธิภาพทางการเงินของธุรกิจได้ดีขึ้น โดยหลักๆ มีดังนี้:
1. เปรียบเทียบกับตัวธุรกิจเอง (แนวโน้มในอดีต)
• ใช้ข้อมูลในอดีตของบริษัท เช่น รายได้ กำไร หรืออัตราส่วนทางการเงินในปีหรือไตรมาสก่อนหน้า
• เพื่อดูการเติบโต (Growth) หรือการลดลง (Decline) ของธุรกิจ
2. เปรียบเทียบกับอุตสาหกรรม
• ดูว่าอัตราส่วนทางการเงินของธุรกิจอยู่ในระดับใกล้เคียงหรือแตกต่างจากคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันอย่างไร
• เช่น เปรียบเทียบอัตรากำไรขั้นต้น หรืออัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (ROA)
3. เปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน (Benchmark)
• เปรียบเทียบกับมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรม เช่น
• อัตราหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity) ที่มักใช้เปรียบเทียบว่าบริษัทมีความมั่นคงหรือไม่
• มาตรฐานด้านสภาพคล่อง (Current Ratio)
4. เปรียบเทียบกับเป้าหมายขององค์กร
• ดูว่าผลการดำเนินงานของธุรกิจตรงตามเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ เช่น เป้ารายได้หรือกำไรสุทธิ
5. เปรียบเทียบกับธุรกิจคู่แข่ง (Competitors)
• วิเคราะห์เพื่อดูว่าธุรกิจมีจุดแข็งหรือจุดอ่อนเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดเดียวกัน
6. เปรียบเทียบกับสภาพเศรษฐกิจ (Macroeconomic Factors)
• ดูความสัมพันธ์ระหว่างรายงานการเงินกับปัจจัยเศรษฐกิจ เช่น อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ หรือ GDP
• ใช้เพื่อวิเคราะห์ว่าสภาพเศรษฐกิจส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างไร
ตัวอย่างอัตราส่วนสำคัญที่ใช้เปรียบเทียบ:
• อัตราส่วนสภาพคล่อง: Current Ratio, Quick Ratio
• อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร: Net Profit Margin, Gross Profit Margin
• อัตราส่วนการบริหารสินทรัพย์: Inventory Turnover, Accounts Receivable Turnover
• อัตราส่วนโครงสร้างทุน: Debt to Equity, Debt to Asset
การเปรียบเทียบเหล่านี้ช่วยให้เห็นภาพรวมว่าธุรกิจมีประสิทธิภาพและมีแนวโน้มเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับตัวเอง