เป้าหมายการพัฒนาด้านใน หรือ IDG (Inner Development Goals) คือ อะไร

Background

ในปี 2015 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้มอบแผนงานที่ครอบคลุมเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืนภายในปี 2030

แม้ว่าเราจะสะสมความรู้มากมายเกี่ยวกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ความยากจน สุขภาพของประชาชน และปัญหาสังคมอื่น ๆ ตามที่ระบุไว้ใน SDGs แต่ดูเหมือนว่าเรายังขาดศักยภาพด้านในจิตใจที่จะรับมือกับสภาพแวดล้อมและความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ

เรามีวิสัยทัศน์ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรเกิดขึ้น แต่ความคืบหน้าที่จะไปสู่เป้าหมายกลับยังน่าผิดหวัง เพราะแนวทางส่วนใหญ่ในปัจจุบันซึ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาทางเทคนิคและนโยบายสาธารณะ ยังไม่เพียงพอเมื่อใช้เพียงลำพัง

สิ่งที่ยังขาดอยู่ในกลยุทธ์เหล่านี้คือ ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า เราควรพัฒนาทักษะ คุณลักษณะ หรือความสามารถใดในระดับบุคคล กลุ่ม และองค์กร ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน SDGs

โชคดีที่งานวิจัยในปัจจุบันชี้ให้เห็นว่า ความสามารถด้านในจิตใจที่เราต้องการ เพื่อเสริมและเร่งแนวทางภายนอกนั้นสามารถพัฒนาได้ และนี่เองคือจุดเริ่มต้นของโครงการ Inner Development Goals (IDG)

Our Story

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา องค์กรจำนวนมากที่สนใจในความเชื่อมโยงระหว่าง "การพัฒนาด้านใน" กับ "ความยั่งยืนภายนอก" ได้ร่วมเดินทางเรียนรู้ไปด้วยกัน ซึ่งรวมถึงการจัดกิจกรรมสาธารณะบางรายการ เช่น การประชุม MindShift Digital Conference ในเดือนเมษายน ปี 2020 ที่ Stockholm School of Economics ซึ่งเป็นเวทีแรกที่ได้แนะนำแนวคิดของ IDG ต่อสาธารณะ

ต่อมาในวันที่ 12 พฤษภาคม 2021 กรอบแนวคิด IDG ซึ่งได้รับการร่วมกันออกแบบโดยนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ นักทรัพยากรบุคคล และผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนกว่า 1,000 คน ได้ถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณะทั่วโลก

หลังจากผ่านการพัฒนาและปรับรูปแบบขององค์กรมาในหลายช่วง ในเดือนพฤศจิกายน 2023 มูลนิธิ Inner Development Goals ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยความร่วมมือขององค์กรหลัก ได้แก่: the 29k Foundation, Ekskaret Foundation, IMD Business School for Management, LUCSUS Center for Sustainability Studies | Lund University, Stockholm Resilience Center | Stockholm University, The New Division, Flourishing Network at Harvard University, World Business Council for Sustainable Development (WBCSD).

Inner Development Goals เป็นโครงการไม่แสวงหาผลกำไรและเปิดให้ใช้ได้แบบโอเพ่นซอร์ส ทรัพย์สินทางปัญญาและกลไกทางเศรษฐกิจของโครงการอยู่ภายใต้การดูแลของ IDG Inner Development Goals AB (svb) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยแบบจำกัดเงินปันผลภายใต้มูลนิธิ IDG

และนี่… เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

Leif Kusaya (Lead Analyst) ได้อธิบายถึงกระบวนการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ Inner Development Guide ในงาน IDG Summit 2025 เอาไว้ว่า “เรามีผู้ตอบแบบสอบถามเกือบ 22,000 คน และมีข้อมูลมากกว่า 900,000 คำ” แสดงให้เห็นถึงปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ที่ทีมต้องนำมาวิเคราะห์ “เรามีทีมทำงานร่วมกัน 19 ทีมทั่วโลก จาก 102 ประเทศ” ยืนยันว่ากระบวนการนี้เป็น collective effort หรือความร่วมมือระดับนานาชาติจริง ๆ “เราได้รับความช่วยเหลือจาก MaxQDA ซึ่งสนับสนุนเรามากในกระบวนการวิเคราะห์” แสดงว่าทีมใช้เครื่องมือวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (qualitative coding) อย่างมีโครงสร้าง “กระบวนการนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นการสร้างความหมายร่วม” หมายถึง การรวมการวิเคราะห์เชิงข้อมูลกับการตีความร่วมกัน “เราเริ่มจากกว่า 900,000 คำ และจบที่เพียง 45 คำ” ซึ่งหมายถึงการสกัดสาระสำคัญจากข้อมูลจำนวนมากให้กลายเป็นโครงสร้างสุดท้ายของ IDG Guide “เราเหมือนผึ้งที่ทำงานในสนามของตัวเอง และสุดท้ายเราได้ ‘น้ำผึ้ง’ ออกมาเป็น framework honey” ภาพรวมของที่มาจึงสื่อถึงการรวมแรงของทีมทั่วโลกให้กลายเป็นผลงานเดียวกัน
.
และในงาน IDG Summit 2025 ที่ผ่านมา Frederick Linton Crona (Head of Research and Co-Creation) ได้เล่าว่าย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ตอนที่ทีมเริ่มคุยกันในครัวของ Jakob Trollbeeks พวกเขามีเป้าหมายจะสร้าง “ชุมชนระดับโลก” ที่ต้อง ฟังเสียงจากทั่วโลก และเชื่อมโยงความคิดเห็นจากหลายวัฒนธรรมเข้าด้วยกันให้กลายเป็น “ผ้าคลุมที่สวยงาม” หรือ beautiful quilt ที่หล่อเลี้ยงการเรียนรู้ร่วมกัน ท้ายที่สุด ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวขอบคุณทีมงานทั่วโลก เช่น Thomas Jordan, Christina Rug, และ Jakob Trollbeeks รวมถึง “ผึ้งทุกตัว” ที่ร่วมกันสร้างสรรค์ IDG Guide ฉบับใหม่นี้ให้เกิดขึ้นได้จริง

IDG Framework Thai

The IDG Framework

The IDG Framework ประกอบด้วย ทักษะและคุณสมบัติ 25 ประการ ที่ถูกจัดแบ่งเป็น 5 มิติ ได้แก่

  • (1) การดำรงอยู่ - การบ่มเพาะชีวิตด้านในของเรา (Being - Cultivating Our Inner Life)
  • (2) การคิด - ความเข้าใจในโลกที่ซับซ้อนของเรา (Thinking - Understanding our Complex World)
  • (3) การเชื่อมโยงสัมพันธ์ การดูแลใส่ใจผู้อื่นและโลก (Relating — Caring for Others and the World)
  • (4) การร่วมมือ - การสร้างความไว้วางใจและการทำงานร่วมกัน (Collaborating — Building Trust and Working Together)
  • (5) การลงมือทำ - การนำและส่งเสริมการเปลี่ยนแปลง (Acting - Leading and Enabling Change)

มิติที่ 1. Being - Cultivating Our Inner Life

การดำรงอยู่ - การบ่มเพาะชีวิตด้านในของเรา (Being - Cultivating Our Inner Life) การลงลึกกับการตระหนักรู้ถึงประสบการณ์ด้านใน และความสัมพันธ์ที่เคลื่อนไหวกับโลกภายนอก ช่วยหล่อเลี้ยงการอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มเปี่ยม มีความชัดเจนในเจตจำนงและตอบสนองอย่างรอบคอบเมื่อเผชิญกับความซับซ้อน (Deepening our awareness of inner experiences and their dynamic relationship with the world around us nurtures embodied presence, clarity of purpose, and thoughtful responses when we face complexity.)
 
 
ฺBeing

Inner Compass

เข็มทิศภายใน - ความมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งที่จะใช้ชีวิตและกระทำตามคุณค่าและเป้าหมายที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม (A deeply felt commitment to live and act in accordance with values and purposes that serve the good of the whole.)

Integrity and Authenticity

ความซื่อตรงและความจริงแท้ - ความมุ่งมั่นอย่างจริงใจต่อความซื่อสัตย์และคุณค่าที่มั่นคง แสดงออกและสื่อสารผ่านการกระทำ (A sincere commitment to honesty and firmly grounded values, expressed and embodied in action.)

Openness and Learning Mindset

การเปิดรับและชุดความคิดแบบเรียนรู้ - ทัศนคติที่ใฝ่รู้และยืดหยุ่น แสดงออกผ่านความเต็มใจในการแลกเปลี่ยนมุมมอง เปิดใจยอมรับความเปราะบาง การเปลี่ยนแปลง และการเติบโต (A curious, adaptive attitude expressed through willingness to exchange perspectives, be vulnerable, welcome change, and grow.)

Self-awareness

การตระหนักรู้ในตนเอง - ความสามารถในการสะท้อนและสัมผัสถึงความคิด อารมณ์ ความปรารถนา และการกระทำ เพื่อคงภาพลักษณ์ที่แท้จริงของตนเองและกำหนดตนเอง (Ability to be in reflective contact with thoughts, emotions, desires, and actions; to maintain a realistic self-image and to regulate oneself.)

Presence

การดำรงอยู่ในปัจจุบัน – ความสามารถในการอยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มเปี่ยม ณ ที่นี่ และ ขณะนี้ ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น และตอบสนองอย่างมีความหมาย (Capacity to be fully present in the here and now, to accept reality as it unfolds, and to respond in meaningful ways.)

 

มิติที่ 2. Thinking - Understanding our Complex World

การคิด - ความเข้าใจในโลกที่ซับซ้อนของเรา (Thinking - Understanding our Complex World) การขยายความชัดเจน การพิจารณามุมมองที่หลากหลาย และการจินตนาการถึงผลลัพธ์ระยะยาว ช่วยให้เรานำทางผ่านความซับซ้อน และตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น ในโลกที่เชื่อมโยงถึงกัน (Expanding clarity, considering diverse perspectives, and imagining long-term consequences help us navigate complexity and make wiser decisions in our interconnected world.)
 
Thinking

Critical Thinking

การคิดเชิงวิพากษ์ - ความสามารถในการสะท้อนและตรวจสอบความถูกต้องของแนวคิด หลักฐาน สมมติฐาน และแผนการ (Ability to reflect on the validity of ideas, evidence, assumptions and plans.)

Perspective Skills

ทักษะการเปิดรับมุมมอง - ความสามารถในการเรียนรู้จากมุมมองที่หลากหลาย และบูรณาการข้อคิดเข้าสู่การตีความและการลงมือทำ (Ability to learn from diverse perspectives and integrate insights into reflective sense-making and action.)

Systems Thinking

การคิดเชิงระบบ - ความสามารถในการเข้าใจความซับซ้อนและทำงานกับความเชื่อมโยงและคุณสมบัติของระบบ (Ability to understand complexity and work with the interconnections and properties of systems.)

Long-term Orientation and Visioning

การมองระยะยาวและการมีวิสัยทัศน์ – การจินตนาการถึงเป้าหมายระยะยาวและยึดมั่นต่อเป้าหมายนั้นในรูปแบบที่สนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมและสิ่งแวดล้อมโดยรวม (Imagining long-term goals and staying committed to them in ways that support broader societal and ecological well-being.)

Creativity

การคิดสร้างสรรค์ - ความสามารถในการคิดนอกกรอบ จินตนาการถึงความเป็นไปได้ใหม่ ๆ และเปลี่ยนให้เป็นแนวคิดที่ทรงพลัง (Ability to think outside conventional patterns, imagine new possibilities, and shape them into transformative ideas.)

 

มิติที่ 3. Relating - Caring for Others and the World

การเชื่อมโยงสัมพันธ์ การดูแลใส่ใจผู้อื่นและโลก (Relating - Caring for Others and the World) การเชื่อมโยงด้วยความเมตตา ความกรุณา และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน โลกที่มีชีวิต และคนรุ่นอนาคต ช่วยให้เราสร้างโลกที่ยุติธรรม ครอบคลุม และเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น (Connecting with kindness, compassion, and a sense of shared belonging to communities, the living planet, and future generations helps us to create a more just, inclusive, and flourishing world.)
 
Relating

Appreciation

การชื่นชม – การสัมพันธ์กับผู้คนและโลกด้วยความสำนึกในคุณค่า ความเคารพเชิงบวก และความสุข (Relating to people and planet Earth with a deep sense of gratitude, positive regard, and joy.)

Connectedness

ความเชื่อมโยง – ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่กว่า เช่น มนุษยชาติ เครือข่ายชีวิตของโลก และมิติทางจิตวิญญาณของการดำรงอยู่ (Feeling a sense of belonging to a larger whole, such as humanity, the planet’s web of life, and the spiritual dimensions of existence.)

Humility

ความถ่อมตน – ความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของสถานการณ์โดยไม่ยึดติดกับความสำคัญของตนเอง (Being able to respond to the needs of the situation without concern for one’s own importance.)

Empathy and Compassion

การสัมผัสถึงความรู้สึกและความกรุณา – การเชื่อมโยงกับผู้อื่น ตนเอง และธรรมชาติด้วยความเมตตา ความเอาใจใส่ และความรัก โดยมีเจตนาลดความทุกข์ (Connecting to others, oneself, and nature with kindness, care, and love, guided by the intention to reduce suffering.)

Forgiveness

การให้อภัย – ความเต็มใจที่จะก้าวข้ามความเป็นศัตรู ทำงานผ่านปมภายใน และสร้างพื้นที่เพื่อการเยียวยา (Willingness to transcend hostility, work through trauma, and create space for healing.)

 

มิติที่ 4. Collaborating - Building Trust and Working Together

การร่วมมือ - การสร้างความไว้วางใจและการทำงานร่วมกัน (Collaborating - Building Trust and Working Together) การพัฒนาความสัมพันธ์ที่มีความไว้วางใจ การยอมรับคุณค่า ทักษะ และมุมมองที่หลากหลาย และสร้างพื้นที่ปลอดภัย เกื้อกูลให้ทุกคนสามารถมีส่วนในเจตจำนงร่วมและผลกระทบร่วม (Developing relationships of trust, acknowledging diverse values, skills, and perspectives, and creating safe spaces enables everyone to contribute to shared purposes and collective impact.)
 
Collaborating

Relationship-Building Skills

ทักษะการสร้างความสัมพันธ์ – การบ่มเพาะความสัมพันธ์ด้วยความฉลาดทางอารมณ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความไว้วางใจ ความเคารพ ความเข้าใจร่วมกัน และจิตวิญญาณแห่งการร่วมมือ (Nurturing relationships with emotional intelligence grounded in trust, respect, mutual understanding, and a spirit of collaboration.)

Inclusive Mindset and Intercultural Competence

การมีส่วนร่วมและโอบรับหลายวัฒนธรรม – ความเต็มใจและความสามารถในการโอบรับความหลากหลาย และการรวมผู้คนและชุมชนที่มีมุมมองและภูมิหลังต่างกัน (Willingness and competence to embrace diversity and include people and communities with different perspectives and backgrounds.)

Co-creation Skills

ทักษะการสร้างสรรค์ร่วมกัน – การเอื้ออำนวยความสะดวกในกระบวนการทำงานร่วมกันกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ความปลอดภัยทางจิตใจ และการตระหนักถึงพลวัตของอำนาจ (Facilitating collaborative processes with diverse stakeholders, fostering teamwork and psychological safety, and being aware of power dynamics.)

Communication Skills

ทักษะการสื่อสาร – ความสามารถในการฟังอย่างลึกซึ้ง สร้างบทสนทนาที่จริงใจ นำเสนอความคิดเห็นอย่างชาญฉลาด จัดการความขัดแย้งอย่างสร้างสรรค์ และปรับการสื่อสารให้เข้ากับกลุ่มที่หลากหลาย (Ability to listen deeply, foster genuine dialogue, advocate one’s views skillfully, manage conflicts constructively and adapt communication to diverse groups.)

Mobilization Skills

ทักษะการระดมพลัง – การสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในเป้าหมายร่วมและการลงมือทำร่วมกัน (Inspiring and enabling others to engage in shared purposes and collective action.)

 

มิติที่ 5. Acting - Leading and Enabling Change

การลงมือทำ - การนำและส่งเสริมการเปลี่ยนแปลง (Acting - Leading and Enabling Change) การก้าวไปข้างหน้าด้วยความกล้าหาญและด้วยทัศนคติเชิงบวก การสร้างพลังร่วม และการลงมือทำด้วยเจตจำนงพร้อมความมุ่งมั่น ที่จะเปลี่ยนวิสัยทัศน์ให้กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน (Moving forward with courage and optimism, building collective agency, and acting with purpose and persistence turns visions into meaningful change in uncertain times.)
 
Acting

Courage

ความกล้าหาญ – การยืนหยัดเพื่อค่านิยมพื้นฐาน การตัดสินใจ การลงมือทำ และเมื่อจำเป็น ก็กล้าที่จะตั้งคำถามและท้าทายโครงสร้างหรือมุมมองที่มีอยู่เดิม (Standing up for fundamental values, making decisions, taking action, and, when needed, questioning and disrupting established structures and views.)

Hope and Optimism

ความหวังและการมองโลกในแง่ดี – การสร้างและรักษาความเชื่อร่วมในความสามารถของเราที่จะสร้างอนาคตที่ยุติธรรม ครอบคลุม และยั่งยืนมากขึ้น (Building and sustaining a shared belief in our capacity to create a more just, inclusive, and sustainable future.)

Conscious of Resources

การใช้ทรัพยากรอย่างมีสติ - การกระทำด้วยความตระหนักถึงข้อจำกัดของทรัพยากรธรรมชาติของโลก โดยให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ การฟื้นฟู และความประหยัดเพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคที่เป็นอันตราย (Acting with awareness of the planet’s limited natural resources, prioritizing conservation, regeneration, and frugality to avoid harmful consumption.)

Proactivity

การริเริ่มเชิงรุก - การปฏิบัติหน้าที่โดยใส่ใจที่อนาคต ด้วยความความรับผิดชอบในเผชิญกับความท้าทายที่เร่งด่วน ยึดหลักความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและการดูแลศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และโลกที่มีชีวิต (Practicing future-oriented, accountable stewardship in the face of urgent challenges, grounded in solidarity and care for human dignity and the living Earth.)

Resilience

การฟื้นคืนพลัง - การเผชิญความยากลำบากด้วยความคล่องตัว การมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง และความพยายามแม้เมื่อความก้าวหน้าเป็นไปอย่างช้า ๆ หรือไม่แน่นอน (Navigating adversity with agility, staying engaged, and persevering even when progress is slow or uncertain.)

เราเห็นภาวะผู้นำล้มเหลวมากมาย
เพราะผู้นำขาดการรับรู้ถึงความจริง
หรือพูดอีกอย่างก็คือ "ขาดการฟัง"
 
ฉันเชื่อว่า
การฟังไม่ใช่แค่ความสำคัญ
แต่คือความสำคัญที่สุด 
"ขาดการฟัง" ทำให้ภาวะผู้นำ
เกิดความล้มเหลว ในวันนี้
 
--- ออตโต ชาเมอร์ ---
 
ผู้ก่อตั้งทฤษฎีตัวยู
MIT Sloan School of Management.
 
 
"We see a lot of leadership failure.
Leaders being out of touch with reality.
So, in other words,
it's a lack of listening.
So, listening, I believe,
is not just an important one.
It's the most important and most
underrated leadership skill today."
 
--- Otto Scharmer ---
Founder of Theory-U
MIT Sloan School of Management.

 

แปลและเรียบเรียง โดย

  • Theeran Pairojangsuthorn, Ph.D.
  • Participant in the IDG Ambassador Program
  • Founder and Developer, InnerCorner.com
  • Founder, IDG Thailand Platform Network

References:

งานเขียนที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

 

HomeRoom Inner Development Platform
Since:
Update:

Read : 9682 times